รักอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์

รักอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์? ความรักเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพใจ ที่หล่อเลี้ยงจิตใจเราให้มีชีวิตชีวา รักนั้นเป็นความสุขหรือความทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าเราคิดหรือมีทัศนคติต่อความรัก มองความรักเป็นอย่างไร ความรักไม่มีขอบเขตหรือข้อกำหนดตายตัว เราจึงมีมุมมองและทัศนคติต่อความรักในแบบที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป

ความรักเป็นสิ่งสวยงามที่อยู่ใกล้ๆตัว แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุณสามารถรับรู้ความรู้สึกนั้นได้ ความรักนั้นมีทั้งทุกข์และสุขปะปนกันไป เหมือนกับคำพูดที่ว่า " ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์ " แต่จะรักอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ รักอย่างไรให้เรามีสุขภาพใจที่ดี ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ ซึ่งอาจจะช่วยให้คุณเข้าใจความรักมากยิ่งขึ้น

• ลดความคาดหวัง

การรักแบบไม่คาดหวังอะไร ไม่ออกแบบให้ความรักเป็นในแบบที่คุณต้องการ เพียงแค่คุณทำทุกอย่างให้เต็มที่ ยอมรับผลของมันให้ได้ ยิ่งเราคาดหวังน้อย โอกาสที่เราจะสมหวังก็ยิ่งจะมากขึ้น  เราสามารถตั้งความคาดหวังได้ แต่อย่าลืมเรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวังด้วย

• รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลง

หากคุณมองไปที่นาฬิกา คุณจะเรียนรู้ว่ามันไม่มีวันที่จะเดินทวนเข็ม เช่นกันชีวิตคนเราก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้าและความรักก็ไม่ต่างอะไรเหมือนกัน ในทุกๆวันย่อมมีการเปลี่ยนแปลง หากคุณเปิดใจ เข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้ คุณจะรักได้อย่างไม่รู้สึกเป็นทุกข์ วันนี้คนรักของคุณชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจแต่ไม่ได้หมายความว่าวันนึงเขาจะไม่เลิกดื่มมันในอนาคต, สิ่งดีๆที่เขาทำให้คุณในวันนี้ พรุ่งนี้เขาอาจจะไม่ได้ทำมันเหมือนเช่นเคย และมันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าหมดรัก แต่ทุกอย่างมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้นเอง

• รักด้วยความเข้าใจ

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือความเข้าใจ เพราะถ้าเรารักกันแต่ไม่มีความเข้าใจกันซึ่งกันและกันเลย ก็ยากที่จะทำให้รักครั้งนี้ราบรื่น ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจถึงนิสัย การใช้ชีวิต ยอมรับในตัวตน ของแต่ละฝ่าย เช่นคนรักของคุณชอบปาร์ตี้สังสรรค์ แฟนสาวของคุณชอบแต่งตัวสวยดูดี คุณต้องเข้าใจข้อนี้ว่ามันคือสิ่งที่เขาชอบ คุณควรจะปรับตัวและเชื่อใจซึ่งกันและกัน แทนที่จะบอกให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งมันคงไม่ดีแน่ถ้าอีกฝ่ายต้องฝืนใจทำสิ่งนั้น ถ้าคุณรักใครด้วยความเข้าใจ คุณย่อมจะเข้าใจและสนับสนุนอีกฝ่ายอย่างไร้ข้อสงสัยในตัวของอีกฝ่าย รักแล้วอย่าเห็นแก่ตัวต้องเข้าใจและปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุขด้วยนะคะ

• ความรักคือการให้ ไม่ใช่การครอบครอง

เมื่อคุณให้ความรักกับใครไป แต่อีกฝ่ายไม่สนใจและไม่ตอบรับรักจากคุณ มันจึงสร้างความทุกข์ใจให้เราได้ไม่น้อย นั้นเพราะว่าคุณรักเขาได้ แต่เขาจะรักคุณตอบหรือไม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะได้ครอบครองความรักจึงไม่ใช่การครอบครอง คุณให้ความรักกับเขาได้มากเท่าที่คุณอยากจะให้ แต่ก็ไม่สามารถจะครอบครองหรือควบคุมหัวใจของเขาได้ เพราะฉะนั้น คุณเรียนรู้ที่จะรักแบบไม่ต้องการอะไร รักแบบไม่ต้องมีเงื่อนไขใดๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยสามารถช่วยให้คุณรู้สึกทุกข์ใจน้อยลง

• ให้อภัยและปล่อยวางบ้าง

ถ้าคุณไม่เคยทำผิด คุณคงจะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย "การให้อภัย"  ไม่ใช่ยอมแพ้ ไม่ใช่เสียเปรียบ และไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายนึงเป็นฝ่ายผิด การให้อภัยคือ การไม่ถือโทษ ไม่โกรธและเป็นการให้โอกาสทั้งสองฝ่ายได้ปรับความใจซึ่งกันและกันอีกครั้ง การยึดติดอยู่กับความผิดพลาดในอดีตไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น ก็ควรจะปล่อยวางลงเสียบ้าง ถึงอย่างไรคุณก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แต่คุณสามารถเรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นเพื่อทำวันนี้ให้มีความสุขและอยู่กับมันอย่างไรให้ทุกข์น้อยลงได้

• อย่าคิดว่าความรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ชีวิตคนเราแท้จริงแล้วไม่ได้ยั่งยืนเหมือนต้นไม้ ซึ่งต้นไม้บางชนิดสามารถมีอายุไขได้เกินร้อยๆปี และตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสตื่นมาพบวันพรุ่งนี้อีกหรือไม่ การคิดว่ารักคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตกำลังบอกว่า คุณยังรักตัวเองไม่มากพอ จึงโหยหาความรัก ความสนใจจากผู้อื่น ความรักที่แท้จริงคือการได้รักและปรารถนาให้อีกฝ่ายมีความสุข ถึงแม้คุณจะไม่ถูกรักก็ตาม โปรดอย่าคิดว่าความรักคืออากาศ ที่คุณขาดมันไม่ได้ คุณไม่ได้ใช้ความรักหายใจ... แต่คุณใช้อากาศหายใจนะคะ! หันกลับมามองตัวเองดีกว่าค่ะ คุณได้ทำอะไรเพื่อตัวเองแล้วหรือยัง? คุณเผื่อใจไว้กับสิ่งต่างๆบ้างหรือเปล่า?  คุณมีความสุขได้ด้วยตัวเองหรือไม่? คุณยังมีครอบครัวที่รักคุณอยู่นะคะ


Love yourself first! ควรเริ่มจากการรักตัวเองก่อน
คุณรักตัวเองมากพอ คุณจะสามารถแชร์ความรักไปยังคนอื่นได้ด้วยพลังแห่งความรักที่เปี่ยมล้น คุณจะไม่รู้สึกกังวลหรือสังสัยในความสัมพันธ์นั้นเลย เพราะคุณรู้สึกรักและเห็นคุณค่าในตัวเองมากพอที่จะไม่เรียกร้องและคาดหวังที่จะได้รับสิ่งใดๆตอบแทนจากความรักที่คุณได้มอบให้คนอื่น


คุณมีวิธีรับมืออย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นทุกข์จากความรัก?
บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ความรักของคุณให้เราฟังบ้าง, หากคุณคิดว่าบทความนี้น่าสนใจและมีประโยชน์ โปรดติดตามและแชร์ให้เพื่อนของคุณได้อ่านด้วยนะคะ :)

Share this: